พรีเมียร์ลีก รีสตาร์ท

By | พฤษภาคม 4, 2020

หลังจากเกมมันเดย์ไนท์ ในคืนวันที่ 9 มีนาคม ที่เป็นการพบกันระหว่างทีม เลสเตอร์ กับทีมแอสตันวิลล่า ที่จบสกอร์ไปด้วยผลการแข่งที่ 4 – 0 ซึ่งเป็นแมทช์สุดท้ายก่อนที่ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะถูกระงับการแข่งขันไปด้วยภาวะผลกระทบจากไข้ระบาดของโควิด-19 ซึ่งนับจากนั้นจนถึงตอนนี้ก็กินเวลาไปเกือบหนึ่งเดือนครึ่งแล้วที่ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเกิดขึ้นอีก

แต่ข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุดนั้น ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ทางศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งในวันที่ 8 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ และทางภาครัฐบาลของอังกฤษก็พร้อมที่จะสนับสนุน

การรีสตาร์ท ของพรีเมียร์ลีกครั้งนี้ด้วย และจากท่าที่ของรัฐบาลของอังกฤษนั้น ก็สอดคล้องความเคลื่อนไหวของหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็นทีมอย่างอาร์เซนอล ทีมไบร์ทตัน หรือทีมเวสต์แฮม ซึ่งได้มีการเรียกนักเตะกลับเข้าแคมป์สโมสรมาฝึกซ้อมกันแล้ว แต่ยังเป็นการซ้อมแยกแบ่งกลุ่มย่อยๆ ตามแนวทางการรักษาระยะห่างทางสังคม และถ้าหากรัฐบาลไฟเขียวเมื่อไหร่ การซ้อมแบบเต็มรูปแบบก็น่าจะเกิดขึ้นช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องคงต้องหารือถึงมาตรการและแนวทางปฏิบัติต่างๆ ที่หากพรีเมียร์ลีกจะกลับมาลงแข่งขันกันอีกครั้งหนึ่ง โดยมาตรการแรกที่ค่อนข้างแน่นอนคือ ต้องแข่งขันกันแบบสนามปิด และจำกัดจำนวนผู้ที่ได้รับสิทธิการเข้าสนาม โดยมีการคาดการณ์กันว่าจะมีคนเข้าสนามได้เพียงสามร้อยคนในแต่ละนัด ไม่ว่าจะเป็นนักฟุตบอล ทีมงานสโมสร ผู้ตัดสิน สื่อมวลชน ทีมถ่ายทอดสด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขันและอื่นๆ ซึ่งนอกจากนี้ยังมีข้อปฏิบัติอีกหลายอย่างที่ต้องกำหนดออกมาอย่างชัดเจน เพื่อให้พรีเมียร์ลีกสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างปลอดภัย เพราะถ้าหากเกิดการระบาดซ้ำ โดยมีสนามฟุตบอลเป็นจุดแพร่เชื้อขึ้นมา ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอาจจะกลายเป็นจำเลยสังคมไปในทันที และอาจจะนำมาสู่มาตรการถูกตัดจบฤดูกาลไปเลยก็เป็นได้ และในขณะเดียวกัน ทางพรีเมียร์ลีกเองอาจมีเวลาได้ศึกษา ศึก

บุนเดสลีกา ของประเทศเยอรมนี เป็นตัวอย่าง เพราะลีกลูกหนังเมืองเบียร์ได้ประกาศแล้วว่า พวกเขาพร้อมกลับมาลงสนามแล้ว ขอเพียงรัฐบาลเปิดไฟเขียวอนุมัติเท่านั้น ซึ่งถ้าฟุตบอลเยอรมัน กลับมาเตะได้ก่อนนี้อาจจะกลายเป็นโมเดลตัวอย่างให้ลีกอื่นๆ ปฏิบัติตาม หากว่าแนวทางการปฏิบัติของพวกเค้านั้นได้ผล และหลังจากนี้คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่าสถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พรีเมียร์ลีกและรัฐบาลอังกฤษจะกำหนดมาตรการและวันแข่งขันที่แน่ชัดอย่างเป็นทางการออกมาได้เมื่อไร แต่ตอนนี้กาปฏิทินรอไว้ก่อนเลยว่า ศึกฟุตบอลที่มีแฟนบอลทั่วโลกดูมากที่สุดกำลังจะกลับมาแล้ว