ย้อนมองไปดูบนสกอร์บอร์ดหลังจบการแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก รอบแปดทีมสุดท้าย ระหว่างสองยอดทีมของเสปนกับเยอรมัน นั่นก็คือ บาร์เซโลน่า และ บาเยิรน์ มิวนิค ซึ่งหากย้อนไปก่อนเริ่มการแข่งขัน คงจะคาดเดาลำบากว่าใครจะเป็นทีมที่ได้ตบเท้าเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป แต่เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น นักเตะบางคนของทีมบาร์ซ่า หรือแม้แต่ เสือใต้ บาเยริน์ เองยังโดนบอลกันไม่ครบทุกคน เสือใต้ ก็ออกนำไปอย่างรวดเร็วเพียงแค่นาทีที่สาม
ด้วยฝีเท้าของโธมัส มุลเลอร์ แต่จากนั้นเหมือนทุกอย่างจะกลับสู่สภาวะปรกติเมื่อ อัลลาบา ยิงเข้าประตูตัวเองส่งผลให้สกอร์อยู่ที่หนึ่งต่อหนึ่ง แต่ด้วยเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง บาร์เซโลน่า กลายเป็นเด็กน้อยที่โดยเสือใต้ ไล่ถลุงและตบหัวเอา โดนไปอีกสามลูก ซึ่งดูเหมือนว่าทุกอย่างจะจบลงแล้วสำหรับฤดูกาลนี้ที่ไม่มีแชมป์อะไรติดมือเลย
สำหรับเจ้าบุญทุ่ม ยิ่งพอมาครึ่งหลัง กลับมาโดนนักเตะที่ตัวเองเมินค่า อย่างคูตินโญ่ ยิงอีกสองประตูและจ่ายอีกหนึ่งประตู มันเหมือนเป็นการตบหน้าแบบให้เจ็บเข้าไปอีก ซึ่งหลังจากจบเกม สกอร์จบลงด้วยแปดประตูต่อสอง มันคือความเจ็บปวดที่ชายคนหนึ่งที่มีนามว่า เคราด์ ปิเก้ จะทนรับสภาพแบบนี้ได้
มันเหมือนโศกนาฎกรรมกลางกรุงลิสบอน ที่ทำลายหัวใจของนักเตะคนนี้อย่างป่นปี้ ด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าของลูกผู้ชาย กับปราการหลังสายเลือดของแคว้นคาตาลันที่เติบโตมาจากศูนย์ฝึก ลา มาเซีย ก่อนที่จะออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับแมนยูไนเต็ด ก่อนที่จะกลับมารับใช้ต้นสังกัดในช่วงปี 2008
ก่อนที่จะสถาปนาตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังระดับโลกในทีมชาติเสปนและทีมบาร์เซโลน่า ด้วยระยะเวลามากกว่าสิบปีที่เค้ารับใช้สโมสรแห่งนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักเตะที่หมุนเวียน ซื้อขายกันออกไป หรือแม้แต่กุนซือที่เข้ามารับหน้าที่
แต่ไม่มีครั้งใดที่ผลการแข่งขันจะเจ็บปวดและบั่นทอนหัวใจเค้าไปมากกว่านี้ ซึ่งว่ากันว่าเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่โดนหงส์แดง พลิกนรก ปล้นตั๋วเข้ารอบไปเข้าแชมป์ได้นั้น ว่าเจ็บปวดและยังนอนไม่หลับเมื่อต้องคิดถึงค่ำคืนนั้นแล้ว คืนนี้ยิ่งเหมือนฆ่าเค้าทั้งเป็น
และทำให้เป็นรอยด่างพร้อยในชีวิตนักเตะของเค้าอย่างแท้จริง ถึงขนาดที่เมื่อจบเกม ตัวเค้าเองพร้อมที่จะเก็บกระเป๋าออกจากสโมสรที่เค้ารัก เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับสโมสรที่เค้ารักมากที่สุดในชีวิต
สนับสนุนโดย Royal casino